เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่าง Bitcoin และ Ethereum

เหรียญที่ร้อนแรง นอกจาก Bitcoin แล้ว รองลงมาก็คือ Ethereum ที่อยู่คู่กันมานาน ซึ่ง Ethereum นั้นเกิดมาทีหลัง โดยนำแนวคิดของ Bitcoin มาต่อยอด ทำให้เหรียญทั้ง 2 เหรียญนี้มีจุดประสงค์ในการใช้งานที่ค่อนข้างแตกต่างกัน

Bitcoin (BTC) คืออะไร?

Bitcoin คือคริปโทเคอร์เรนซีเหรียญแรกในประวัติศาสตร์ เมื่อปี 2009 โดย Satoshi Nakamoto (นามแฝง) ได้นำเทคโนโลยีบล็อกเชนเข้ามาเพื่อบันทึกข้อมูลธุรกรรม ส่งผลให้บุคคลที่มีชื่อเสียงจากหลากหลายวงการต่างให้ความสนใจกับบิตคอยน์ ทำให้ความต้องการ Bitcoin สูงขึ้น ประกอบกับจำนวนที่มีจำกัด จึงส่งผลให้ราคาเพิ่มสูงขึ้น 



เครือข่ายบล็อกเชนของบิตคอยน์ใช้การเข้ารหัสแบบ SHA-256 เพื่อแปลงข้อมูลให้เป็นรหัสที่มีความยาวและซับซ้อน (Hash) เพื่อความปลอดภัย แต่ก็จำเป็นต้องใช้พลังงานไฟฟ้าและการประมวลผลเพื่อถอดรหัสยืนยันธุรกรรม และสร้างบล็อก โดยเครือข่าย Bitcoin ใช้เวลาสร้างบล็อก 1 บล็อกประมาณเวลา 10 นาที 



บิตคอยน์ คือเหรียญที่ถูกออกแบบมาให้มีจำนวนเหรียญสูงสุด 21 ล้านเหรียญเท่านั้น และทุก ๆ 210,000 บล็อกที่สร้างขึ้นบนเครือข่าย หรือ 4 ปีโดยประมาณ จำนวนเหรียญที่ได้รับจากการขุดจะลดลงครึ่งนึง (Halving) ส่งผลให้มีการปรับราคาครั้งใหญ่ในทุก 4 ปีก็ว่าได้ ปัจจุบัน บิตคอยน์ถูกขุดขึ้นมาแล้วประมาณ 18 ล้านเหรียญ หมายความว่า เหรียญที่เหลือจะถูกขุดขึ้นมาหมดภายในปี 2140





Ethereum (ETH) คืออะไร?



Ethereum คือเครือข่ายแบบกระจายศูนย์ (Decentralized) ที่มี Blockchain เป็นเทคโนโลยีเบื้องหลัง และมีเหรียญ Ether (ETH) เป็นตัวกลางในการทำธุรกรรมบนเครือข่าย ซึ่งได้แนวคิดมาจาก Bitcoin ที่เป็นสกุลเงินดิจิทัลสกุลแรกของโลก



Ethereum ถูกสร้างขึ้นโดยนาย Vitalik Buterin ในปี 2015 จุดเด่นของ Ethereum คือ สามารถประยุกต์ใช้สัญญาอัจฉริยะ (Smart Contract) ในการทำธุรกรรมได้ ทำให้ Ethereum มีความน่าสนใจอย่างมาก โดยเหรียญ Ether มีจำนวนเหรียญเริ่มต้นที่ 72 ล้านเหรียญ มีการแจกจ่ายมากกว่า 50 ล้านเหรียญในการเสนอขายเหรียญครั้งแรก (ICO)



Smart Contract คือชุดคำสั่งทางคอมพิวเตอร์ หรือ “โปรแกรม” ที่สามารถทำงานได้ด้วยตัวเองเมื่อครบเงื่อนไขที่ตกลงกันไว้ ซึ่งเงื่อนไขจะเป็นอย่างไรนั้น ผู้พัฒนาสามารถกำหนดได้ และทุกคนก็สามารถตรวจสอบโปรแกรมได้



ปัจจุบัน Ethereum กำลังพัฒนา Ethereum 2.0 ที่จะเป็นการเปลี่ยนระบบฉันทามติจาก Proof of Work (PoW) เป็น Proof of Stake (PoS) ซึ่งจะสามารถลดการใช้พลังงานไฟฟ้าจากการทำงานของเครือข่ายลง แถมยังรองรับจำนวนธุรกรรมได้มากขึ้น ทำให้ทำงานไวขึ้นหลายเท่าตัวเลยทีเดียว





ความแตกต่างระหว่าง Bitcoin และ Ethereum



Bitcoin และ Ethereum มีแตกต่างกันในระดับหนึ่ง โดย Bitcoin เป็นเหมือนเงินไว้สำหรับใช้จ่าย หรือเก็บไว้เป็นทรัพย์สินสำรองมากกว่า ในขณะที่ Ethereum หรือ Ether นอกจากจะเป็นตัวกลางสำหรับการทำธุรกรรมบนเครือข่ายแล้ว Ether ยังเป็นตัวขับเคลื่อน Smart Contract และเกิดเป็นแอปพลิเคชันรูปแบบใหม่ ๆ บนบล็อกเชน



นอกจากนี้ สิ่งที่ต่างกันชัดเจนคือ จำนวนเหรียญ โดย Bitcoin มีจำกัดที่ 21 ล้านเหรียญ ซึ่งไม่สามารถผลิตขึ้นมาได้อีก ในขณะที่ Ethereum ไม่มีการจำกัดจำนวนสูงสุด





สรุป



แม้ Bitcoin จะมีส่วนแบ่งตลาดที่ใหญ่กว่า แต่ Ethereum ก็มีดีที่ Smart Contract ทำให้เหรียญได้รับความนิยมเป็นอันดับที่ 2 อย่างไรก็ดี ยังมี Ethereum 2.0 ที่มีการเปลี่ยนแปลงจากระบบฉันทามติแบบ PoW เป็น PoS ด้วย ในอนาคตอันใกล้นี้ Ethereum จะเป็นอย่างไรต่อไปนั้น ถือเป็นเรื่องที่น่าติดตามอย่างมากทีเดียว





อ้างอิง:



Investopedia thansettakij Binance Academy