บล็อกเชน Cardano และเหรียญ ADA คืออะไร? มาทำความรู้จักให้มากขึ้นกัน!

บล็อกเชน Cardano และเหรียญ ADA คืออะไร? มาทำความรู้จักให้มากขึ้นกัน!



ในปัจจุบันมีเครือข่ายบล็อกเชน Layer-1 ที่มีศักยภาพเกิดขึ้นมากมายในอุตสาหกรรมบล็อกเชน หนึ่งในนั้นคือ Cardano เครือข่ายบล็อกเชนชั้นนำที่มีความเป็นมิตรกับผู้ใช้งาน นักพัฒนา รวมไปถึงสิ่งแวดล้อมอีกด้วย



ภายในบทความนี้เราจะพาเพื่อน ๆ ไปรู้จักกันให้มากยิ่งขึ้นว่า Cardano และ ADA คืออะไร? พร้อมทั้งเจาะลึกว่าเครือข่าย Cardano มีจุดเด่นอย่างไรบ้าง?



Cardano และ ADA คืออะไร?



Cardano คือ เครือข่ายบล็อกเชน Open Source Layer-1 ที่ใช้ระบบฉันทามติ Proof-of-Stake (PoS) ถูกก่อตั้งขึ้นในปีค.ศ. 2015 โดย Charles Hoskinson ซึ่งยึดมั่นอย่างมากในการพัฒนาเครือข่ายของเขาด้วยงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่ถูกตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้ Cardano เป็นเครือข่ายที่มีศักยภาพมากที่สุดเครือข่ายหนึ่ง สำหรับการสร้างสัญญาอัจฉริยะ (Smart Contract) ที่จะช่วยเอื้อให้เกิดระบบการเงินและแอปพลิเคชั่นกระจายศูนย์บนระบบนิเวศที่มีความปลอดภัยและยั่งยืน



โดย Cardano มีเหรียญ ADA เป็นเหรียญประจำเครือข่าย ซึ่งชื่อเหรียญมีที่มาจาก “Ada Lovelace” หญิงที่ถูกยกย่องให้เป็นโปรแกรมเมอร์คนแรกของโลก ซึ่งเหรียญ ADA นั้นสามารถนำไปใช้งานได้อย่างหลากหลายบนระบบนิเวศของ Cardano เพื่อเอื้อให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงระบบการเงินและแอปพลิเคชั่นกระจายศูนย์ได้สะดวกมากยิ่งขึ้น



การนำเหรียญ ADA ไปใช้งาน



ใช้ Stake เพื่อตรวจสอบระบบ: บล็อกเชนของ Cardano ใช้ระบบการตรวจสอบธุรกรรมด้วยกลไกฉันทามติ Proof-of-Stake ที่เป็นการนำเหรียญ ADA ไป Stake บนเครือข่ายเพื่อช่วยในการตรวจสอบธุรกรรมและเสริมสร้างความมั่นคงและปลอดภัยของเครือข่าย โดย Cardano เปิดกว้างในการให้ผู้ใช้งานทุกคนสามารถนำเหรียญ ADA ของตนมา Stake บนเครือข่ายได้และจะได้รับ ADA จำนวนหนึ่งตอบแทนกลับมาสำหรับการมาช่วยตรวจสอบเครือข่าย



ชำระค่าทำรายการธุรกรรม: แม้ Cardano จะเป็นบล็อกเชนที่รวดเร็ว ถูกใช้งานอย่างแพร่หลาย อีกทั้งยังขึ้นชื่อในด้านค่าธรรมเนียมที่ต่ำ แต่ก็มีค่าธรรมเนียมเล็กน้อยเท่านั้นที่จำเป็นต้องจ่าย โดยผู้ใช้งานสามารถใช้เหรียญ ADA ของตนในการชำระค่าธรรมเนียมในการดำเนินธุรกรรมได้อย่างสะดวก



นำไปใช้งานในระบบนิเวศของ Cardano: ระบบนิเวศของ Cardano กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเต็มไปด้วยแอปพลิเคชั่นและระบบการเงินแบบกระจายศูนย์ โดยผู้ใช้งานสามารถใช้เหรียญ ADA ในการเข้าถึงแพลตฟอร์มกระจายศูนย์ที่มีอยู่มากมายบนระบบนิเวศของ Cardano ได้อย่างสะดวกและง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็นการนำไปค้ำประกันสินทรัพย์ ใช้งาน Smart Contract รวมไปถึงใช้สำหรับโอนสินทรัพย์เป็นต้น



Cardano มีความโดดเด่นอย่างไร?



ความสามารถในการปรับขนาด: Cardano เกิดจากการที่ Charles Hoskinson อดีตผู้ร่วมก่อตั้ง Ethereum เล็งเห็นจุดอ่อนของ Ethereum ในเรื่องของความสามารถในการปรับขนาดเครือข่ายและบล็อก (Scalability) ส่งผลให้ไม่มีศักยภาพมากเพียงพอในการยืนยันธุรกรรมจำนวนมากได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้น เขาจึงสร้างเครือข่าย Cardano ที่มีศักยภาพอย่างมากในเรื่องของการปรับขนาดที่สามารถรองรับการดำเนินธุรกรรมจำนวนมหาศาลได้อย่างรวดเร็วและค่าธรรมเนียมยังต่ำอีกด้วย



ความประหยัดพลังงาน: Cardano ให้ความสำคัญอย่างมากกับผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ดังนั้นผู้สร้างจึงออกแบบให้ Cardano ใช้กลไกแบบฉันทามติ Proof-of-Stake ที่ไม่จำเป็นต้องใช้กำลังไฟฟ้าเข้ามาใช้ในการขุดเพื่อให้บล็อกเชนสามารถดำเนินต่อไปได้ ซึ่งระบบ Proof-of-Stake นั้นสามารถช่วยประหยัดการใช้ไฟฟ้าได้มากถึง 99% เมื่อเทียบกับเครือข่ายที่มีการใช้ระบบฉันทามติ Proof-of-Work (PoW) แบบ Bitcoin



โครงสร้างพื้นฐานของ Cardano



ภายในบล็อกเชนของ Cardano ยังมีการแบ่งย่อยออกมาคร่าว ๆ เป็นอีก 3 Structures ที่ช่วยเสริมสร้างศักยภาพของกันและกันและทำให้ธุรกรรมต่าง ๆ เสร็จสมบูรณ์อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนี้



เริ่มจาก 1. Consensus ที่จะมีการใช้โปรโตคอลฉันทามติ Ouroboros ที่ทำหน้าที่หน้าที่ดูแลและรักษาสถานะทั้งหมดที่จำเป็นในระบบฉันทามติของเครือข่าย



2. Network จะทำหน้าที่ในการเชื่อมต่อระหว่าง Node บนเครือข่ายเพื่อรับบล็อกที่ถูกสร้างขึ้นในเข้ามาใช้งาน และเป็นเลเยอร์ที่มุ่งเน้นในด้านการอัปเดตบล็อกผ่านการบรรจุธุรกรรมต่าง ๆ ลงในบล็อกและเอื้อการถ่ายโอนบล็อกระหว่าง Node บนเครือข่าย



3. Ledger จะทำหน้าที่ในการดูแลการทำธุรกรรมต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นภายในบล็อกและการสร้างบล็อกใหม่ๆ บนเครือข่าย รวมไปถึงการเชื่อมต่อ Nodes ต่าง ๆ บนเครือข่ายอีกด้วย



แผนพัฒนา Cardano



Cardano มุ่งมั่นอย่างมากในการสร้างเครือข่ายบล็อกเชนที่มีศักยภาพสำหรับทุกคน จึงได้ทำการแบ่งแผนการพัฒนาเครือข่ายออกเป็น 5 ช่วง ดังนี้



1. Byron ที่เป็นแผนพัฒนาแรกที่เกิดขึ้นในปี 2015 โดยเป็นการวางโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ ของเครือข่ายเพื่อให้สามารถบรรลุวัตถุประสงค์หลัก 3 ประการ ได้แก่ การปรับขนาด (Scalability) การทำงานร่วมกัน (Interoperability) และการเติบโตที่ยั่งยืน (Sustainability) โดยการพัฒนาในช่วงแรกนี้เองที่ทำให้เหรียญ ADA สามารถถูกซื้อขายและส่งผ่านกันระหว่างผู้ใช้งานได้



2. Shelly เป็นการพัฒนาที่ช่วยให้ Cardano มีความกระจายศูนย์มากขึ้นผ่านการทำให้เครือข่าย Cardano ใช้ระบบฉันทามติแบบ Proof of Stake เพื่อส่งเสริมให้เกิดการกระจายตัวของ Node บนเครือข่ายและเอื้อให้เกิดการมีส่วนร่วมของผู้ใช้งาน Cardano ในการเข้ามาช่วยรันเครือข่ายให้มีความปลอดภัยและโปร่งใสมากยิ่งขึ้น



3. Guguen เป็นการอัปเดตที่เกิดขึ้นในปีค.ศ. 2021 ที่มีความสำคัญอย่างมากต่อเครือข่าย Cardano เนื่องจากมีการอัปเดตที่ทำให้เครือข่ายสามารถรองรับการสร้าง Smart Contract ได้ ในยุคนี้จึงเป็นการเกิดขึ้นของแอปพลิเคชั่นกระจายศูนย์และระบบการเงินกระจายศูนย์มากมายบนระบบนิเวศของ Cardano



4. Basho การเกิดขึ้นของแอปพลิเคชั่นกระจายศูนย์หลังจากการอัปเดตในยุคที่ผ่านมาทำให้มีผู้ใช้งานจำนวนมากไหลเข้ามาในระบบนิเวศของ Cardano ดังนั้นเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาคอขวดที่จะทำให้การดำเนินธุรกรรมสะดุดและช้า จึงมีการอัปเดต Basho ที่เน้นในเรื่องของความสามารถในการปรับขนาดของ Cardano ของเครือข่าย เพื่อให้เครือข่ายสามารถรองรับการทำธุรกรรมจำนวนมหาศาลได้ในระยะเวลาอันสั้น และเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมสู่การใช้งานในวงกว้างอีกด้วย



5. Voltaire เป็นยุคของการอัปเดตขั้นสุดท้ายที่จะเกิดขึ้นเมื่อเครือข่าย Cardano มีความพร้อมในด้านต่าง ๆ แล้วสำหรับการใช้งาน โดยในยุคนี้จะเป็นการทำให้เครือข่ายมีการกระจายศูนย์แบบเต็มรูปแบบ โดยจะมีการเปิดให้นำเหรียญ ADA เข้ามาใช้ Stake เพื่อร่วมโหวตกำหนดทิศทางของเครือข่าย โดยเครือข่ายจะไม่ได้อยู่ภายใต้การกำกับดูแลโดย IOHK หรือทีมผู้สร้างอีกต่อไป แต่จะเป็นผู้ใช้ทุกคนที่เข้ามามีส่วนร่วมในการกำกับดูแลเครือข่ายแทนนั่นเอง



ราคาเหรียญ ADA

ADA ถูกซื้อขายอยู่ในตลาดที่ราคา 9.10 บาทต่อ 1 ADA มีมูลค่าทางการตลาดรวมอยู่ในอันดับที่ 8 ของตลาดคริปโทเคอร์เรนซี่ โดยมีมูลค่าตลาดรวมประมาณ 3.18 แสนล้านบาท มีอุปทานเหรียญหมุนเวียนอยู่ในตลาดที่ประมาณ 3.5 หมื่นล้านเหรียญและมีอุปทานเหรียญทั้งหมดอยู่ที่ 4.5 หมื่นล้านเหรียญ (อ้างอิงราคาจาก CoinGecko ในวันที่ 19 มิถุนายน 2566)



หมายเหตุ: สินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยง โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้



สรุป

Cardano คือบล็อกเชน Layer-1 ที่ใช้กลไกฉันทามติแบบ Proof-of-Stake ถูกสร้างขึ้นในปีค.ศ. 2015 โดย Chales Hoskinson เพื่อใช้เป็นบล็อกเชนสำหรับการพัฒนา Smart Contract ที่ทำให้เกิดแอปพลิเคชั่นและระบบการเงินแบบกระจายศูนย์มากมาย โดยมี ADA เป็นเหรียญประจำเครือข่ายที่ผู้ใช้งานสามารถใช้เหรียญ ADA เพื่อเข้าถึงระบบนิเวศของ Cardano ได้อย่างสะดวกและง่ายดาย เครือข่าย Cardano มีจุดเด่นในเรื่องของความสามารถในการปรับขนาดและความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม  



Cardano ใส่ใจอย่างมากกับการพัฒนาที่ยึดหลักการพัฒนาจากงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ อีกทั้งยังมีการแบ่งแผนการพัฒนาออกเป็น 5 ยุคเพื่อให้เครือข่ายมีศักยภาพและความพร้อมมากเพียงพอในการรองรับผู้ใช้งานในวงกว้าง



มากไปกว่านั้น สำหรับผู้ที่สนใจศึกษาเพิ่มเติมและติดตามการพัฒนาต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับบล็อกเชนของ Cardano และเหรียญ ADA อย่างใกล้ชิด สามารถเข้าไปศึกษาต่อได้ที่ Cardano Spot ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มโซเชียลที่ถูกสร้างขึ้นและดูแลโดยชุมชนผู้ใช้งาน Cardano และเต็มไปด้วยข่าวสารและการอัพเดตต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับบล็อกเชนและระบบนิเวศของ Cardano อีกทั้งยังเอื้อให้สามารถเขียนบทความและสร้างคอนเทนต์ต่าง ๆ เพื่อร่วมสร้างชุมชนบล็อกเชน Cardano ที่แข็งแกร่งและยั่งยืนได้อีกด้วย



อ้างอิง: Cardano, IOHK, Bitkub, Bitkub, Coinmarketcap, Bitkub Academy, CoinGecko