Double Spending คืออะไร



Double Spending คือ การมีเงินดิจิทัลหน่วยเดียวแต่ถูกนำไปใช้ซ้ำซ้อน อาจเกิดขึ้นได้เนื่องจากข้อมูลดิจิทัลสามารถทำซ้ำได้ค่อนข้างง่าย และผู้ไม่หวังดีอาจต้องการใช้ช่องโหว่นี้ในการทำธุรกรรม หากเปรียบเทียบกับเงินสด ก็คล้ายกับการผลิตเงินปลอมขึ้นมาแล้วนำไปใช้จ่ายในตลาด ทำให้เกิดเงินเฟ้อ





Double Spending เกิดขึ้นได้อย่างไร



เริ่มกันที่เงินสด ซึ่งแทบจะไม่มีโอกาสเกิด Double Spending เลย ตัวอย่างเช่น คุณสั่งอาหารในร้านอาหารและจ่ายเงิน 100 บาทเป็นเงินสด ตอนนี้คุณไม่สามารถใช้เงิน 100 บาทเดียวกันในที่อื่นได้ เนื่องจากมันอยู่ในแคชเชียร์ของร้านอาหารนั้นเรียบร้อยแล้ว



แต่เงินในรูปแบบดิจิทัลนั้นอยู่ในรูปแบบของไฟล์ดิจิทัล ซึ่งสามารถที่จะทำซ้ำหรือปลอมแปลงขึ้นมาได้ง่าย เช่นเดียวกับเงินปลอม คล้ายกับการที่เราบันทึกไฟล์เอกสารสักอย่างหนึ่งไว้ แล้วคัดลอกไปแจกจ่ายให้กับผู้อื่น ซึ่งปัญหาที่ตามมาคืออัตราเงินเฟ้อที่อัดฉีดเข้าไปในระบบการเงินโดยการทำซ้ำและไม่ได้เกิดเม็ดเงินขึ้นจริง



และสิ่งที่อาจทำให้เกิด Double Spending ได้ก็คือการโจมตี 51% (51% Attack) ซึ่งเป็นการควบคุมพลังงานขุดที่มีสัดส่วนมากกว่า 51% ของกำลังขุดทั้งหมดในเครือข่าย โดยตามกลไกฉันทามติ (Consensus) ที่ต้องมีการยืนยันความถูกต้องเกินครึ่งหนึ่งถึงจะสามารถนำข้อมูลเข้าไปไว้ในเชนได้ นั่นหมายความว่า การที่กลุ่มนักขุด หรือบุคคลที่มีกำลังเกินครึ่งหนึ่งสามารถทำการยืนยันธุรกรรมที่อาจเกิดจากการแก้ไขดัดแปลงหรือปลอมแปลงขึ้นมาได้





การแก้ปัญหา Double Spending



Bitcoin ได้เข้ามาแก้ปัญหานี้โดยการใช้การตรวจสอบความถูกต้องของธุรกรรม หรือที่เรียกกันว่า ฉันทามติ (Consensus) แบบ Proof-of-Work (PoW) ซึ่งทำงานอยู่บนเทคโนโลยีบล็อกเชน (Blockchain) 



แต่ปัญหา Double Spending นั้นก็ยังคงไม่หายไป มันยังคงมีโอกาสเกิดขึ้นในระหว่างการทำธุรกรรม แต่กระบวนการตรวจสอบจะมีกลไกที่ช่วยตัดสินใจเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง กรณีที่เกิดธุรกรรมซ้ำซ้อน ระบบจะเก็บบล็อกที่มีธุรกรรมเหมือนกันไว้ทั้ง 2 ธุรกรรม เมื่อเวลาผ่านไปมีบล็อกใหม่เข้ามาในเชน ระบบจะเลือกเชนที่มีบล็อกยาวที่สุดและธุรกรรมที่ไม่ได้รับเลือกจะถูกยกเลิก





อ้างอิง:

Investopedia, wikipedia