วันที่ 1 ธันวาคม ปี 2020 Libra Association ได้เปลี่ยนชื่อเป็น Diem Association โดยทีมผู้พัฒนาคิดว่าคงจะเป็นการดีที่สุดที่ปรับเปลี่ยนแผนเพื่อเร่งให้ผู้กำกับดูแลอนุมัติไวขึ้น ซึ่งการเปลี่ยนชื่อก็ถือเป็นส่วนหนึ่งของแผนเหมือนกัน ผู้พัฒนาคิดว่าการเปลี่ยนชื่อจะทำให้ผู้กำกับดูและประชาชนสลัดภาพเดิมของ Libra ออกไป
หนึ่งในจุดประสงค์ของการเปลี่ยนแปลงเกิดจากการที่ Diem ต้องการลดความเกี่ยวข้องกับ Facebook ลงตามที่ฝ่ายนิติบัญญัติเสนอแนะให้แยกตัวออกจากแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียเพื่อเพิ่มความไว้วางใจด้านความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งานให้ผู้กำกับดูแล
Diem คืออะไร?
หลังการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญทำให้มีการเปลี่ยนแปลงเป้าหมายโดยรวมของโครงการ Libra จากตอนแรกที่ Libra ต้องการที่จะเป็นสกุลเงินกลางของโลก ซึ่งทำให้ผู้กำกับดูแลและนักนิติบัญญัติบางส่วนไม่ค่อยพอใจมากนัก ในครั้งนี้ Diem เลือกที่จะไม่เข้ามาแทนที่สกุลเงิน Fiat แต่เป็นการสนับสนุนสินทรัพย์ที่รัฐบาลให้การรับรอง เช่นการค้ำประกันด้วยเงิน USD หรือ Euro แทน
Diem คือเหรียญ Stablecoin ที่มีลักษณะคล้ายคลึงกับ Tether (USDT) โดยจะทำงานบนบล็อคเชนของ Diem และผู้ใช้จะถือเหรียญใน wallet ที่เรียกว่า Novi
โดยปกติ Diem ถูกใช้สำหรับการชำระเงิน แต่อย่างไรก็ตาม บล็อคเชนของ Diem นั้นสามารถเขียนโปรแกรมได้เหมือนกับ Ethereum ทำให้นักพัฒนาสามารถสร้างแอพลิเคชั่นและเขียนสัญญาอัจฉริยะ (Smart contract) ของตัวเองได้อีกด้วย
บล็อคเชนของ Diem นั้นจะถูกตรวจสอบโดยโหนด ซึ่งเป็นสมาชิกของ Diem Association ทำหน้าที่ในการตรวจสอบธุรกรรมและบล็อค
ด้วยประสิทธิภาพบล็อคเชนของ Diem บน testnet ณ ขณะนี้สามารถรองรับได้ระหว่าง 6 - 24 ธุรกรรมต่อวินาที ถือว่าค่อนข้างห่างไกลกับเครือข่ายการชำระเงินที่ไม่ใช้เทคโนโลยีบล็อคเชน อย่าง Visa และ Mastercard แต่คาดว่าวันที่เปิดตัว Diem จะสามารถรองรับธุรกรรมได้ 1,000 ธุรกรรมต่อวินาที
Diem คือระบบรวมศูนย์ (Centralized) หรือไม่?
บล็อคเชนของ Diem จะถูกตรวจสอบโดยกลุ่มคนที่ถูกเลือกมาเพื่อตรวจสอบจาก Diem Association ซึ่งปฎิเสธไม่ได้เลยว่าการตรวจนี้ใช้คนเพียงกลุ่มเล็ก ๆ เท่านั้น และแม้ว่า Diem จะให้คำสัญญาว่าจะทำตามกฎระเบียบข้อบังคับกับสถาบันการเงินทั่วโลก แต่ก็ยังหลีกเลี่ยงความจริงในเรื่องของความเป็นระบบที่รวมศูนย์ที่อาจทำให้ขึ้นบัญชีดำหรือกีดกันธุรกรรมที่เกิดขึ้นภายในได้หากต้องการ
ดังนั้นจึงทำให้ Diem ขัดกับความตั้งใจเดิมที่เทคโนโลยีบล็อคเชนที่ บิตคอยน์ ออกแบบมาเพื่อมอบอิสระภาพทางการเงินให้และไม่สามารถปิดบังธุรกรรมได้