ปัจจุบัน มีเครือข่ายมากมายที่พยายามใช้กลไกต่าง ๆ มารักษาเสถียรภาพของ Stablecoin ซึ่ง Terra เป็นหนึ่งในโปรเจกต์ที่พัฒนาระบบเฉพาะสำหรับการทำธุรกรรมด้วย Stablecoin ให้มีประสิทธิภาพจนเติบโตอย่างมากในเกาหลีใต้
วันนี้ Bitkub Acabdemy จะพาคุณไปรู้จัก Terra ให้มากขึ้นว่า Terra คืออะไร ทีมพัฒนาเป็นใคร มีจุดเด่นและการทำงานที่น่าสนใจอย่างไรบ้าง
Terra คืออะไร?
Terra คือ แพลตฟอร์มสัญชาติเกาหลีใต้ที่รองรับการชำระเงินอย่างครบวงจรบนระบบบล็อกเชนแบบ Open-source โดยสร้าง Stablecoin ที่ผูกมูลค่ากับสกุลเงิน Fiat หรือสกุลเงินที่รัฐบาลจัดตั้งขึ้น เช่น เงินวอนของเกาหลีใต้ เงินดอลลาร์สหรัฐฯ ผ่านการทำงานของสัญญาอัจฉริยะที่มีความสามารถในการสร้าง Stablecoin ประเภทต่าง ๆ ได้อย่างหลากหลาย
ทั้งสองโทเคน Terra และ LUNA คืออะไร?
แพลตฟอร์มของ Terra Protocol มีโทเคนหลัก 2 สกุล ได้แก่ Terra หรือ LUNA
Terra คือ เหรียญมูลค่าคงที่ (Stablecoin) ที่ผูกมูลค่ากับสกุลเงิน Fiat และถูกเรียกชื่อควบคู่กับสกุลเงินที่นำไปอ้างอิง ตัวอย่างเช่น เหรียญแรกของ Terra คือ TerraKRW (KRT) ซึ่งอิงกับเงินวอนของเกาหลีใต้ และมีเหรียญอื่น ๆ อีกมากมาย เช่น TerraUSD (UST), TerraJPY, TerraCNY, TerraEUR, TerraGBP, TerraSDR เป็นต้น
LUNA คือ เหรียญประจำแพลตฟอร์ม Terra Protocol ที่ใช้เพื่อรักษาเสถียรภาพราคา และเป็นหลักประกันในการสร้าง Stablecoins ทั้งยังเป็น Governance Token ที่ผู้ถือครองมีสิทธิออกเสียงเกี่ยวผ่านข้อเสนอในการพัฒนาของโปรเจกต์ได้ นอกจากนี้ ผู้ใช้สามารถล็อก (Stake) LUNA บนแพลตฟอร์มเพื่อรับส่วนลดค่าธรรมเนียมอีกด้วย
ทั้งโทเคน Terra และ LUNA ทำหน้าที่ในการถ่วงน้ำหนักเพื่อรักษาเสถียรภาพซึ่งกันและกัน หากต้องการเหรียญหนึ่งจะต้องทำลาย (Burn) อีกเหรียญหนึ่งก่อน เพื่อให้ราคามีความคงที่ ด้วยเหตุนี้ จึงเป็นที่มาของการตั้งชื่อว่า Terra และ LUNA ซึ่งสื่อถึงความสัมพันธ์ของโลกและดวงจันทร์ ที่มีแรงโน้มถ่วงซึ่งกันและกัน
ทีมผู้พัฒนา
Terra ก่อตั้งในปี 2018 ในประเทศเกาหลีใต้ โดย Do Kwon และ Daniel Shin ซึ่ง Kwon เคยเป็นวิศวกรซอฟต์แวร์ของ Microsoft และ Apple รวมทั้งเคยก่อตั้งและดำรงตำแหน่งซีอีโอของ Anyfi ซึ่งเป็นบริษัทสตาร์ทอัพที่ให้บริการเครือข่ายไร้สายแบบกระจายศูนย์ ส่วน Shin เคยเป็นผู้ก่อตั้งและซีอีโอ ของ Chai หรือบริษัทเทคโนโลยีการชำระเงินในเอเชีย และเคยเป็นผู้ก่อตั้งบริษัทอีคอมเมิร์ซรายใหญ่ของเกาหลีใต้ชื่อ Ticket Monster (TMON)
เป้าหมายหลักของทีมพัฒนา คือ การสร้าง Terra ให้มีราคาเสถียร ด้วยการรวมแนวคิดคริปโทเคอร์เรนซีเข้ากับสกุลเงิน Fiat และ Bitcoin โดยการนำไปใช้เป็นสื่อกลางการแลกเปลี่ยนเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด นอกจากนี้ ทีมพัฒนายังเชื่อมั่นว่า Terra Protocol จะเป็นระบบที่ดีที่สุดของสกุลเงินดิจิทัล เนื่องจากปัจจุบัน ในระบบเศรษฐกิจต้องการโปรโตคอลที่ทำให้ราคามีเสถียรภาพได้อย่างมาก
จุดเด่นและการทำงานที่น่าสนใจ
จุดเด่นหลักของ Terra คือ สามารถสร้างความเสถียรของราคา Stablecoin ที่ผูกมูลค่ากับสกุลเงิน Fiat อื่น ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมรองรับการชำระเงินที่รวดเร็วและมีค่าธรรมเนียมต่ำ อันเนื่องมาจากความเร็วในการสร้างบล็อกใหม่ที่ใช้เวลาเพียง 6-8 วินาทีเท่านั้น
สกุลเงิน Fiat ที่ Terra ผูกมูลค่าด้วย ได้แก่ วอน หยวน เยน ทูกริก และเงินบาทของไทย (ที่รู้จักในชื่อ THT) นอกจากนี้ Terra ยังมอบสิทธิพิเศษในการถอนเงินของกองทุนระหว่างประเทศแก่ประเทศข้างต้น หากมองกลับมาในปัจจุบันมีเหรียญ Stablecoin อยู่ไม่กี่เหรียญ ซึ่งส่วนใหญ่ผูกกับเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ทั้งนั้น Terra จึงนับว่าได้ขับเคลื่อนระบบการชำระเงินด้วยสกุลเงินอื่น ๆ อย่างไร้พรมแดนให้สะดวกขึ้นอย่างมาก
เนื่องจาก Stablecoin ต้องรักษาความเสถียรของราคาโดยผูกไว้กับสินทรัพย์หนึ่ง ดังนั้นเพื่อหลีกเลี่ยงความผันผวนของราคา โปรโตคอลจะต้องรักษาราคาของโทเคน Terra โดยทำให้อุปสงค์และอุปทานสมดุลกันเสมอ เมื่อผู้ใช้ต้องการชำระสินค้าและบริการ ผู้ใช้จะต้องสร้าง หรือ Mint เหรียญ Terra ผ่านกระบวนการเผา LUNA ตามจำนวนที่จำเป็นก่อนจึงจะได้ Terra ออกมาเพื่อนำไปใช้จ่าย
กลไกข้างต้นนี้นำไปสู่จุดเด่นอีกหนึ่งข้อ คือ ผู้ใช้งานสามารถเทรดเพื่อเก็งกำไรระหว่าง LUNA และ Stablecoins อันเป็นแรงจูงใจให้เกิดสมดุลของราคาในกรณีที่ราคาเหรียญผันผวน และช่วยให้เหรียญกลับมามีมูลค่าคงที่ได้ง่าย ซึ่งส่งผลดีต่อทั้งผู้ค้าและผู้ขายที่ทำธุรกรรมด้วย Stablecoins